ในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 ซึ่งจัดโดยสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ของไมโครไบโอมกับการเกิดสิว หรือ MICROBIOME AND ACNE โดย Sophie SEITE ร่วมกับ ภก.นิวัตร ธีรวิวัฒน์วงศ์ ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ Effaclar Duo+ จาก LaRoche-Posay และการดูแลผิวพรรณ
ในการบรรยายได้กล่าวถึงรายละเอียดการศึกษาว่า บนผิวหน้าของเรามีจุลชีพอาศัยอยู่มากมาย เรียกว่า "ไมโครไบโอม" ซึ่งในผิวหนังแต่ละบริเวณของร่างกายมนุษย์จะมีลักษณะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความเป็นกรด-ด่าง ความชื้น ปริมาณเกลือ สภาพอากาศ อีกทั้งในแต่ละคนก็ยังมีชนิด และสัดส่วนของไมโครไบโอมที่แตกต่างกันอีกด้วย
จากการศึกษาความสัมพันธ์ของไมโครไบโอมกับผิวพบว่า ไมโครไบโอมบนผิวเป็นตัวช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดโรค นอกจากนี้ ยังพบว่าความหลากหลายของไมโครไบโอมบนผิวและสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันกับไมโครไมโอมบนผิวถือเป็นคุณสมบัติของผิวที่มีสุขภาพดี แต่หากไมโครไบโอมบนผิวสูญเสียความสมดุลและความหลากหลาย ก็จะมีผลทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ ฝื่น สะเก็ดเงิน รวมไปถึงปัญหาสิวด้วย
ปัญหาสำคัญที่พบจากการศึกษาคือ การรักษาสิวด้วยการใช้ยาทาเฉพาะที่และการกินยาปฏิชีวินะ พบว่าการใช้ยาปฏิชีวนะนั้นไม่ได้ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับเชื้อ P.acnes ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว แต่จะออกฤทธิ์ครอบคลุมไปถึงเชื้ออื่นๆ ที่อาศัยอยู่บนผิว ซึ่งเป็นการทำลายสมดุลและความหลากหลายของไมโครไบโอมบนผิว และก่อให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยา ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะเดี่ยวๆ แต่ให้ใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพในการลดปัญหาสิว โดยไม่ทำลายความสมดุลและความหลากหลายของไมโครไบโอมบนผิว เพื่อรักษาสมดุลตามธรรมชาติของผิวและลดผลเสียในระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก
http://www.envithailand.com/
http://www.envithailand.com/
No comments:
Post a Comment